SFP+ (10G)
SFP (Small Form-factor Pluggable) โมดูล 10G เป็นโมดูลที่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่ายที่รองรับความเร็วในการส่งข้อมูลที่ 10 Gbps ซึ่งมักใช้ในระบบเครือข่ายที่ต้องการแบนด์วิดท์สูงและการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ เช่น สวิตช์ (Switch), เราเตอร์ (Router), และเซิร์ฟเวอร์ (Server) ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่านการใช้สายไฟเบอร์ออปติกหรือสายทองแดง
1. ประเภทของ SFP โมดูล 10G
1. SFP+ (Small Form-factor Pluggable Plus) เป็นโมดูลที่สามารถรองรับความเร็วสูงสุดที่ 10 Gbps ใช้สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกล โดยจะมีทั้งประเภทที่ใช้กับสายไฟเบอร์ออปติก (fiber optic) และสายทองแดง (copper).
2. SFP+ SR (Short Range) ใช้กับสายไฟเบอร์ออปติกที่มีระยะทางการส่งข้อมูลสั้น (สูงสุดประมาณ 300 เมตรที่ความเร็ว 10 Gbps)
3. SFP+ LR (Long Range) ใช้กับสายไฟเบอร์ออปติกที่สามารถส่งสัญญาณได้ไกลถึง 10 กิโลเมตร
4. SFP+ DAC (Direct Attach Copper) ใช้สำหรับการเชื่อมต่อระยะใกล้ (เช่นภายในเซิร์ฟเวอร์หรือสวิตช์) ด้วยสายทองแดงที่มีความยาวตั้งแต่ 1 ถึง 7 เมตร
2. SFP28 โมดูลนี้รองรับความเร็วที่สูงขึ้นจาก SFP+ โดยสามารถรองรับการส่งข้อมูลได้ที่ 25 Gbps และมักใช้ในเครือข่ายที่ต้องการแบนด์วิดท์ที่สูงกว่าปกติ
การใช้งาน
SFP โมดูล 10G ใช้สำหรับการเชื่อมต่อในเครือข่ายที่มีความต้องการการส่งข้อมูลที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง เช่น การเชื่อมต่อระหว่างสวิตช์ ในศูนย์ข้อมูล การเชื่อมต่อระหว่างเซิร์ฟเวอร์ กับสวิตช์ในเครือข่าย การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเครือข่ายระดับสูง เช่น การสื่อสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์, สตอเรจ และคอมพิวเตอร์
ข้อดี
1. รองรับการเชื่อมต่อที่มีความเร็วสูงถึง 10 Gbps
2. สามารถเปลี่ยนโมดูลได้ง่ายตามความต้องการ
3. รองรับทั้งการใช้งานไฟเบอร์ออปติกและทองแดง
4. รองรับการใช้งานในระยะทางที่แตกต่างกัน (จาก 1 เมตรถึงหลายกิโลเมตร)
การเลือกใช้ SFP โมดูล 10G ควรพิจารณาความต้องการของเครือข่าย รวมถึงประเภทของสายที่ใช้และระยะทางที่ต้องการเชื่อมต่อ
แสดง 1 ถึง 8 จาก 8 (1 หน้า)